[ป.วิ.อาญา ภาค 4] ในคดีอาญาศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาได้หรือไม่

Spread the love

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญา

มาตรา 220  วางหลักว่า ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์

ป.วิ.อาญา มาตรา 220 นี้นําไปใช้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องด้วย ดังนั้น คดีที่ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลจึงพิพากษายกฟ้อง หากต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คู่ความทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นโจทก์ โจทก์ร่วม จำเลย จะฎีกาไม่ได้ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและในปัญหาข้อกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม คดีที่ต้องห้ามฎีกาตามมาตรา 220 นี้ คู่ความมีสิทธิขอให้ผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกาหรือขอให้อัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาตามหลักเกณฑ์ในป.วิ.อาญา มาตรา 221 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3123/2560 ความผิดฐานใช้หรืออ้างเอกสารปลอมและฐานกระทำหรือยินยอมให้กระทำการเพื่อลวงให้ห้างหุ้นส่วนบริษัท ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกฟ้องโจทก์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 220

พิพากษาศาลฎีกาที่ 2321/2550 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายกฟ้องโจทก์ ซึ่งต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อเท็จจริงหรือปัญหาข้อกฎหมายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6549/2560 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ประทับฟ้องจําเลยที่ 4 เฉพาะข้อหาหมิ่นประมาทตามฟ้องข้อ 9 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น เท่ากับว่า คดีโจทก์ในส่วนของจําเลยที่ 4 อีก 8 ข้อหาตามฟ้องข้อ 1 ถึงข้อ 8 และฟ้องโจทก์สําหรับจําเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และที่ 5 ถึงที่ 11 นั้น ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนให้ยกฟ้องโจทก์ ดังนั้นข้อหาทั้ง 8 ข้อหาดังกล่าวในส่วนของจําเลยที่ 4 และคดีสําหรับจําเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และที่ 5 ถึงที่ 11 ทุกข้อหาจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อเท็จจริงหรือปัญหาข้อกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220