
คําพิพากษาฎีกาที่ 3391/2562
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคหนึ่ง เมื่อมีการดําเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ศาลมีอํานาจยกขึ้นพิจารณาได้เอง หรือคู่ความฝ่ายที่เสียหายมีอํานาจยื่นคําร้องขอให้เพิกถอน เสียได้ ส่วนระยะเวลาในการยื่นคําร้องนั้นบทบัญญัติดังกล่าววรรคสอง กําหนดให้คู่ความฝ่ายที่ เสียหายต้องยื่นไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้าง นั้น แต่ทั้งนี้คู่ความฝ่ายนั้นต้องมิได้ดําเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบแล้ว หรือต้องมิได้ให้สัตยาบันแก่การผิดระเบียบนั้น ๆ ซึ่งระยะเวลาที่กฎหมายกําหนดไว้นี้ใช้บังคับแก่การยื่นคําร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบทุกกรณี ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่าง พิจารณาหรือหลังจากศาลมีคําพิพากษาแล้ว ไม่ใช่ว่าใช้บังคับเฉพาะกรณีขอให้เพิกถอน กระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบก่อนมีคําพิพากษา
โจทก์ทราบผลคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 เมื่อเจ้าพนักงานเดินหมายส่งคําบังคับ ให้โจทก์ทราบ แสดงว่าโจทก์ทราบแล้วว่าศาลชั้นต้นอ่านคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 แล้ว (พิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนจําเลย) จึงมีการออก คําบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 โจทก์ชอบที่จะตรวจสอบและทราบ ข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างที่ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ตามคําร้องได้นับแต่นั้น และโจทก์นําเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งตาม คําพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 มาวางศาล ถือได้ว่าโจทก์ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็น มูลแห่งข้ออ้างในเรื่องผิดระเบียบตั้งแต่โจทก์ได้รับคําบังคับหรืออย่างช้าภายในวันที่โจทก์นําเงิน มาวางศาล แต่โจทก์ยื่นคําร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ล่วงเลยเวลาที่ กฎหมายกําหนดโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะยื่นคําร้องได้ คําร้องของโจทก์ที่ขอให้เพิกถอนกระบวน พิจารณาที่ผิดระเบียบจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคสอง